นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอดีตที่ปรึกษาและโฆษกและเลขานุการศูนย์รักษาความสงบ ในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคเพื่อไทย
นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ หรือ "ผู้การป๊อบ" เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2508 (ป๊อป) เป็นบุตรชายคนที่สอง จากลูกชายทั้งหมดหกคน ของ นาวาอากาศตรี ฐิติ นาครทรรพ (อดีตเลขาธิการพรรคสามัคคีธรรม) และ นางสุมาลี นาครทรรพ (นามสกุลเดิม: นานา เป็นน้องสาวของนายเล็ก นานา) สมรสกับนางอรวรรณ นาครทรรพ มีบุตร-ธิดาทั้งหมด 6 คน
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สำเร็จการศึกษา ระดับมัธยมต้น จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 7, ระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 23, ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมอากาศยาน) จากโรงเรียนนายเรืออากาศ และได้รับปริญญา รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต หลักสูตรสำหรับนักบริหาร รุ่นที่ 12 จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม นอกจากนี้ ยังสำเร็จการศึกษา ในหลักสูตรทางการทหารคือ โรงเรียนการบิน รุ่นที่ 82-30-2, โรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ 76, หลักสูตรการฝึกบินทางอากาศยุทธวิธี รุ่นที่ 5, หลักสูตรนายทหารยุทธการระดับฝูงบิน รุ่นที่ 39, โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 40 และหลักสูตรการสงครามทางอากาศ รุ่นที่ 4
และในขณะที่ยังรับราชการอยู่ในกองทัพอากาศ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ยังได้รับการเชิดชูให้ได้รับรางวัลเกียรติยศต่างๆ ในหลายโอกาส ดังนี้
1.โล่เชิดชูเกียรติ ศิษย์การบินดีเด่น และ อันดับที่ 1 ภาควิชาการ ของโรงเรียนการบินกองทัพอากาศ
2.โล่เชิดชูเกียรติ การศึกษาดีเด่นอันดับ 1 “เชิดวุฒากาศ” ในรุ่นที่ 40 ของโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ
3.เกียรติบัตรผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่น และ เกียรติบัตรการศึกษาดีเยี่ยม ในรุ่นที่ 76 ของโรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง
4.รางวัลศิษย์เก่าดีเด่น สาขาบริหารราชการและการปกครอง “อุบล เรียงสุวรรณ” ของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. 2548
นอกจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ยังได้รับเลือกให้มีตำแหน่งทางสังคม อันได้แก่ การได้รับเลือกให้เป็นอุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่าง พ.ศ. 2545-2547 และ การได้รับเลือกให้เป็นประธานมูลนิธิรวมน้ำใจคลองเตย ในปี พ.ศ. 2548 อีกด้วย
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เข้ารับราชการในกองทัพอากาศ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยได้รับมอบหมาย บรรจุแต่วคั้งในตำแหน่งหน้าที่ตามลำดับคือ เป็นนักบินในหน่วยบินไอพ่นขับไล่โจมตี สังกัดหน่วยบิน 1032 เมื่อปี พ.ศ. 2535, เป็นผู้บังคับหน่วยบินไอพ่นขับไล่โจมตี สังกัดหน่วยบิน 1031 เมื่อปี พ.ศ. 2539, เป็นหัวหน้าแผนกควบคุมการยุทธทางอากาศ เมื่อปี พ.ศ. 2541, เข้าร่วมเป็นฝ่ายเสนาธิการ ในกองฝึกผสมคอบร้าโกลด์ เมื่อปี พ.ศ. 2542 และ เป็นผู้บังคับฝูงบินขับไล่สกัดกั้นที่ 102 คนแรก ซึ่งเป็นฝูงบินที่ใช้เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูง แบบ เอฟ-16 เอดีเอฟ เมื่อปี พ.ศ. 2544
นอกจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ ยังมีโอกาสไปปฏิบัติภารกิจสำคัญในต่างประเทศคือ ไปปฏิบัติราชการตามโครงการปรับปรุงเครื่องแสดงผลการยุทธทางอากาศ (เอซีเอ็มไอ) ที่รัฐอิสราเอล, เป็นผู้บรรยายพิเศษ แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางอากาศแห่งชาติ ที่รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา, เป็นผู้บังคับฝูงบินผสม ในการฝึก "สปิน อัพ" ที่รัฐแอริโซนา และผู้บังคับฝูงบินผสม ในการฝึก "เรดแฟลก 03" ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองครั้ง เป็นการฝึกด้วยเครื่องบินขับไล่ แบบ เอฟ-16 นอกประเทศครั้งแรกของกองทัพอากาศไทย
น.อ.อนุดิษฐ์ เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ประธาน คณะกรรมการประสานงาน และติดตามผล การดำเนินงานนโยบายลำไย ประจำปี พ.ศ. 2548 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองประธาน คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองประธาน คณะกรรมการดำเนินงาน จัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อสนับสนุน การปฏิบัติงานฝนหลวง ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองประธาน คณะดำเนินการ จัดงานรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตอนเหนือ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2548 และ คณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาและติดตาม งบประมาณของเหล่าทัพ และประสิทธิภาพของกองทัพไทย ในคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร
ในปี พ.ศ. 2554 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จนกระทั่งวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีจากตำแหน่งเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยขาดความชอบธรรม